6 things i should know before studying master degree
เชื่อว่าตอนนี้หลายๆ คนอาจเกิดอาการเบื่องาน เบื่อเพื่อนร่วมงาน เบื่อการเมืองที่วุ่นวายไม่จบไม่สิ้น หรือบางคนทำงานมาสักระยะ อยากเข้าใจงานให้มากกว่าเดิม หลายคนคงให้ ‘การเรียนต่อปริญญาโท’ เป็นทางออกของปัญหาที่ว่า แต่ต้องรู้ไว้ก่อนว่าไม่มีการเรียนปริญญาโทใดที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ หรือปราศจากน้ำตา
วันนี้ Hotcourses Thailand จะพาไปดูว่ามีเรื่องไหนกันบ้างที่นักศึกษาปริญญาโทหวังว่าจะรู้การจะเรียนป. โท ฝากให้เป็นแนวคิวให้คนที่คิดจะเรียนต่อ 6 things i should know before graduate school
ไม่ต้องรีบเรียน
อย่างที่เกริ่นไปตอนต้น หลายคนพอเรียนจบปริญญาตรีแล้วก็รู้สึกว่าต้องเผชิญหน้ากับโลกแห่งความเป็นจริง งาน เงิน ชีวิต ฯลฯ อย่างน้อยถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะเรียนอะไรก็ควรออกไปลองหาอะไรทำก่อน ให้รู้ว่าชอบอะไร หรืออย่างน้อยที่สุดให้รู้ว่าไม่ชอบทำอะไร ที่ควรจะแน่ใจก็เพราะว่าการเรียนปริญญาโทไม่ใช่เรื่องที่คิดจะทำก็ทำได้ เพราะทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายเสมอ ไหนจะค่าสอบ ค่าสมัครเรียน ค่าชีท ถ้าเรียนไปแล้วไม่ชอบก็จะหลายเป็นต้องออก เสียดายทั้งทุนและเวลา
ดังนั้นจงใช้เวลาค้นหาว่าตัวเองอยากทำอะไรกันแน่ ถ้าแน่ใจแล้วก็มุ่งหน้าสู่เป้าหมายเลย หลักสูตรเวลาเรียนมี 2 แบบ เลือกเวลาเรียนให้ดี
ส่วนใหญ่การเรียนปริญญาโทมี 2 แบบ คือเรียนแบบเต็มเวลา (Full time) และเรียนแบบนอกเวลา (Part time) เพราะประสบการณ์ที่ได้จะแตกต่างกันเลย ถ้าเรียนแบบนอกเวลาก็อาจจะไม่ได้ชิทแชทกับเพื่อนในชั้นมากนักเพราะต้องเอาเวลาไปโฟกัสกับเรื่องอื่นๆ ด้วย เช่นเรื่องงาน และการเรียนแบบนอกเวลาก็ต้องใช้ความอดทนและทักษะการจัดการที่สูงมาก ในขณะที่การเรียนแบบเต็มเวลาก็จะได้ประสบการณ์การเรียนแบบเต็มรูปแบบเลย หากจะไปเรียนในต่างประเทศ (เช่นอังกฤษ) นักเรียนต่างชาติ (เช่น นักเรียนไทย) ต้องเรียนแบบเต็มเวลาเท่านั้นถึงจะขอวีซ่าได้ 6 things i should know before graduate school
เทอมแรกยากที่สุด สติต้องมา
ทุกอย่างต้องมีจุดเริ่มต้นเสมอ จุดเริ่มต้นของการเรียนป.โท ก็คงเป็นเทอม 1 นี่แหละ ทุกอย่างที่จะปะทะเข้ามาจะหนักกว่าการเรียนป. ตรีหลายเท่า ไหนจะเมืองใหม่ มหาวิทยาลัยใหม่ สาขาใหม่ คนหน้าใหม่ๆ ชื่อใหม่ๆ นักเรียนปริญญาโทต้องเตรียมพร้อมและปรับตัวให้ได้กับสิ่งเหล่านี้ แต่ขอให้รู้ไว้ว่านี่คือเรื่องปกติมาก ขอให้ตั้งสติ อดทนและทำหน้าที่ให้ดีที่สุดความท้าทายรอบด้าน (ก็เข้ามาดิ!)
กิจวัตรของนักเรียนป. โท นั้นง่ายมาก อ่านเปเปอร์ทั้งวัน ในปริมาณมหาศาล และเขียนเปเปอร์ตลอดเวลาเช่นกัน นี่คือกิจวัตรที่ท้าทายมากเพราะเนื้อหาที่อัดแน่น เข้มข้น ทำให้การอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะการเรียนป.โท นั้นเน้นการอภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นมากกว่าจะมาฟังเลคเชอร์แบบป. ตรี ดังนั้นอาจารย์จะคาดหวังให้นักเรียนแต่ละคนมีความพร้อมก่อนเข้าชั้นอยู่แล้ว และถ้าใครเตรียมตัวมาไม่ดี ความรู้สึกกดดันก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพื่อนป.โทอาจกลายเป็นเพื่อนชั่วชีวิต
พอพูดถึงการทำงาน ทำเปเปอร์ เรามักจะนั่งอ่านคนเดียว ทำความเข้าใจคนเดียว จนสุดท้ายก็นั่งเครียดคนเดียว แต่นักเรียนป. โทหลายคนเลือกใช้วิธีมานั่งติวกันนอกห้องแทน เพื่อย่นเวลาในการทำความเข้าใจเนื้อหาทั้งหมด (ซึ่งเยอะมาก!) การคุยกับเพื่อนจึงเป็นการต่อยอดการเรียนเช่นกัน เพื่อนอาจทำให้เข้าใจในสิ่งที่พลาดไป นี่เป็นการลดปริมาณเปเปอร์ที่ต้องอ่าน ลดความเครียด (เพราะมีคนให้แชร์ด้วย) ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นปริญญาโทมีราคาที่ต้องแลก
ไม่มีใครบอกว่าการเรียนปริญญาโทง่าย นักเรียนป. โทหลายคนต้องเผชิญกับความเครียด ความกดดัน และอาการซึมเศร้าจากการเรียน สูญเสียช่วงเวลาที่จะได้ใช้กับเพื่อน ครอบครัวเพราะต้องมาอ่านหนังสือ นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้หลายๆ คนยอมแพ้ได้ง่ายมาก (และมันเป็นเรื่องปกติเช่นกัน) แต่นักเรียนหลายคนผ่านมาได้เพราะรู้ว่าตัวเองแลกสิ่งนี้กับอะไร การเรียนต่อปริญญาโทนั้นเป็นการเปิดโอกาสด้านอาชีพการงานได้แน่นอน ที่สำคัญคือทำให้รู้ว่าแต่ละคนสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่ตัวเองคิดมาก ดังนั้นอย่าลืมที่จะพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางคนเก่งๆ คนที่เชื่อมั่นในตัวเรา นำพลังนั้นมาเป็นพลังให้กับตัวเอง“จงมั่นใจในสิ่งที่เราชอบ” เคล็ดลับพิชิตทุนโทปรัญชาในจีน จากนักเรียนกายภาพบำบัด
รวมพลคนเรียนข้ามสายวิชา สืบประสบการณ์เรียนต่อโทสายวิทย์ จากคนจบตรีสายศิลป์!
8 หลักสูตรปริญญาโทที่ไม่ต้องจบตรีด้านนี้มาก่อนก็เรียนได้


